น้ำเสียมีกลิ่นเนื่องจากการย่อยสลายของสารอินทรีย์และการปลดปล่อยก๊าซต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการทางชีวภาพ โดยมีปัจจัยหลักดังนี้:
1. **สารอินทรีย์ที่เน่าเสีย**:
- น้ำเสียมักมีสารอินทรีย์ เช่น เศษอาหาร น้ำมัน ไขมัน และของเสียจากร่างกายที่เมื่อถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์จะปลดปล่อยก๊าซและสารเคมีที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์
2. **การย่อยสลายแบบไร้อากาศ (Anaerobic Decomposition)**:
- ในสภาวะที่ไม่มีออกซิเจน จุลินทรีย์แบบไร้อากาศจะย่อยสลายสารอินทรีย์และปลดปล่อยก๊าซที่มีกลิ่นแรง เช่น ไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H₂S) ซึ่งมีกลิ่นเหมือนไข่เน่า, เมทิลเมอร์แคพแทน (methyl mercaptan) และแอมโมเนีย (NH₃)
3. **การย่อยสลายแบบใช้อากาศ (Aerobic Decomposition)**:
- แม้การย่อยสลายแบบใช้อากาศจะผลิตกลิ่นน้อยกว่าการย่อยสลายแบบไร้อากาศ แต่ยังสามารถผลิตก๊าซบางชนิดที่มีกลิ่นได้ เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) และก๊าซไขมันบางชนิด
4. **สารเคมีและของเสียในน้ำเสีย**:
- สารเคมีจากการใช้ในครัวเรือน เช่น ผงซักฟอก สารทำความสะอาด หรือสารเคมีจากอุตสาหกรรม อาจเกิดการปนเปื้อนและทำปฏิกิริยากับสารอื่น ๆ จนเกิดกลิ่น
**การจัดการกลิ่นของน้ำเสีย**:
- **ระบบบำบัดน้ำเสีย**: ใช้กระบวนการทางชีวภาพและเคมีในการลดสารอินทรีย์และก๊าซที่มีกลิ่น
- **การเติมอากาศ**: เพิ่มการไหลเวียนของอากาศในระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อเปลี่ยนการย่อยสลายแบบไร้อากาศเป็นแบบใช้อากาศ ซึ่งผลิตกลิ่นน้อยกว่า
- **การใช้สารเคมี**: การใช้สารเคมีเช่น โอโซน (O₃) หรือคลอรีน (Cl₂) ในการฆ่าเชื้อและลดกลิ่น
- **การจัดการของเสียที่เหมาะสม**: ลดปริมาณของเสียอินทรีย์ที่จะเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสีย เช่น การรีไซเคิลและการลดขยะอาหาร
การควบคุมและลดกลิ่นในน้ำเสียเป็นเรื่องสำคัญในการบำบัดน้ำเสีย เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของผู้คนในบริเวณใกล้เคียง.